สรุป Electrical

แหล่งจ่ายไฟ
1. เต้าไฟ
  1. แบบมีฉนวน
  2. แบบไม่มีฉนวน
อันตรายจากไฟฟ้า
1. ไฟฟ้าช๊อต Short circuit
  1. คือ ไฟฟ้าลัดวงจร คือมีกระแสไฟฟ้าไหลครบวงจรโดยไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า
  2. ผลของไฟฟ้าช๊อต
    1. เครื่องใช้ไฟฟฟ้าและอุปกรณ์เสียหาย
2. อันตรายจากไฟดูด Electric Shock
  1. อาการ
    1. กล้ามเนื้อแข็งตัว
    2. หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ และหยุดทำงาน
    3. เซลล์ภายในร่างกายถูกทำลาย
    4. ระบบประสาทชะงัก
  2. 5 A ทำให้กล้รามเนื้อกระตุก
  3. 15 mA ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว
  4. 50 mA อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองเล็กน้อย
  5. 75-100 mA อาจทำให้หัวใจเต้นริกและตายได้
3. ไฟฟ้าแรงสูง
  1. สังเกตได้จาก ความสูง และ ฉนวนที่มีรูปร้างเหมือนลูกถ้วย จำนวนลูกถ้วยเป็นชั้น บอกถึงระดับแรงดันไฟฟ้า
ไฟบ้าน
1. Alternating Current
2. Sine Wave
3. 220 V 50 Hz
4. Vrms Vaverage Vp Vpp Vdc
เต้ารับ (Socket)
1. L คือ ขั่วที่มีไฟ
2. N ,G ไม่มีไฟ
3. ชุดสายพ่วง(ปลั๊กไฟ)
  1. โดยปกติเต้ารับพ่วงรวมแล้วปกติ ต้องไม่เกิน 16 A
  2. ห้ามนำชุดสายพวงหลายชุดมาต่ออนุกรมไปใช้งานไกลๆ ระวังความร้อนในชุดสายพ่วงและแดงดันไฟตกปลายทาง
  3. หลักการเลือกซื้อใช้ชุดสายพ่วง (ปลั๊กไฟ)
    1. ต้องรุ้ว่าจะใช้กับงานในร่มหรืองานนอกอาคาร
    2. ต้องรู้ว่าเครื่องที่จะใช้ไฟนั้น กินไฟเท่าใด
    3. จุดที่จะใช้ไฟนั้นห่างไกลแค่ไหนจากจุดต่อไฟที่ใกล้ที่สุด
    4. ต้องผลิตตาม มาตรฐาน มอก . 166-2549 หรือฉบับแก้ไขปีล่าสุด
4. การตรวจสอบการต่อขั่วของเต้ารับ
  1. ให้ตั้งต้นจาก รูของเต้ารับที่ขั้วสายดิน G
    1. ดูสัญลักษณ์
      1. หมุนวนไปทางขวาตามเข็มนาฬิกา
        ขั้วแรกที่พบ จะเป็น N
        ถัดมาจะเป็น L
5. เต้าเสียบ-เต้ารับที่ดี เมือเสียบแล้วต้องแน่นพอควรและไม่หลวงง่าย
ไขควงทดสอบไฟบ้าน Test Lamp
1. ใช้สำหรับทดสอบหาไฟเส้น Line
  1. นำปลายไขควงส่วนที่เป็นโลหะไปสัมผัส สายไฟที่ต้องการทดสอบ
    1. นำนิ้วไปแตะที่หัวไขควงส่วนที่เป็นโลหะ
      1. ไฟจะสว่างขึ้นถ้าเป็นเส้น Line
2. ใช้ตรวจสอบ ว่ามีไฟฟ้าหรือไม่ และตรวจสอบ ว่ามีไฟรั่วหรือไม่
3. หลอดนีออนจะสว่างเมือต่อครบวงจร เมือ ไฟไหลจากปลายไขควงผ่าน > นีออน ตัวต้านทาน นิ้ว แขวน ร่างกาย ลงสู่พื้น
การต่อสายดิน
1. แบบที่ไม่ถูก
  1. X
  2. X
  3. X
2. แบบที่ถูก
3. สายดินมี 2 ชนิด
  1. สายดินเพื่อให้ทำงานได้ (functional earthing conductor)
    1. ไม่ได้มีไว้ป้องกันไฟแต่ใช้เพื่อให้วงจรสามารถทำงานได้เท่านั้น
  2. สายดินป้องกัน (protective earthing conductor)
Multimeter
1. Analog Multimeter Digital Multimeter
  1. ทำได้เหมือนกัน
    1. วัดความต่างศักดิ์ AC (V)
    2. วัดความต่างศักดิ์ DC (V)
    3. วัดความต้านทาน (R)
    4. วัดความต่อเนื่อง Continuity Test
    5. วัดกระแส (I)
    6. หาเส้น Line ของไฟบ้าน
  2. เฉพาะ Digital Multimeter
    1. วัดค่า คาปาซิเตอร์
    2. วัด อุณหภูมิ C, F
  3. หมายเหตุ
    1. การใช้มับติมิเตอร์วัดแรงดัน V และกระแสไฟฟ้า ถ้าไม่รู้ย่านของแรงดัน หรือกระแส ให้ตั้งมัลติมิเตอร์ไว้ที่ย่านสูงๆ ก่อนเสมอ
เครื่องใช้ไฟฟ้า
1. มี 4 ประเภท
  1. 1. ขั้วสายดิน และฉนวนหุ้มไฟฟ้าเพียงพอสำหรับการใช้งานปกติเท่านั้น
    1. ตามมาตราฐาน มอก.-166 จะเป็นแบบสามขากลม
  2. 2. มีฉนวนหุ้มหนาเป็น 2 เท่า
    1. ตามมาตราฐาน มอก.-166 จะเป็นแบบสองขากลมมีฉนวนหุ้ม
  3. 3. ใช้กับแรงดันกระแสสลับไม่เกิน 50 V หรือ 120 V.d.c.
  4. 0. มาตรฐานสากลไม่รับรองหรือยินยอมให้ผลิตมาใช้งาน
สายไฟฟ้า
1. ตัวอย่างสายไฟฟ้าแรงต่ำ ชนิดต่างๆ
  1. สาย THW (สายเดี่ยว)
    1. สาย VFF (สายอ่อน)
      1. สาย VAF (สายคู่)
        สาย NYY (สายใต้ดิน)
2. เลือกชนิดของสายไฟให้เหมาะสมกับสภาพการติดตั้งใช้งาน
เครื่องตัดไฟรั่ว
1. เครื่องป้องกันไฟดูด ตัดไฟรั่วที่ไหลผ่านร่างกาย หรือ ตัดไฟรั่วที่ไหลลงดินที่อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้า
2. มี 2 ประเภท
  1. RCO Residual Current Circuit Breaker with Overcurrent Protection
    1. ตัดไฟรั่วและกระแสลัดวงจร
  2. RCCB = Residual Current Circuit Breaker (without Overcurrent Protection)
    1. ตัดไฟรั่วที่ไม่สามารถตัดกระแสลัดวงจรได้
    2. ใช้ร่วมกับฟิวส์ หรือ เบรกเกอร์ทุกครั้ง
3. เครื่องตัดไฟรั่วจะทำงานได้ดี เมือใข้กับสายดิน
  1. ถ้าไม่มีสายดิน จะถูกไฟดูดเสียก่อน เครื่องถึงจะทำงาน
สูตรคำนวณต่างๆ
Electronics
1. อะตอม (Atom)
  1. Atomic number
    1. คำนวณ P ,N, e
  2. อิเล็กตรอน ( electron)
  3. โปรตอน ( proton )
  4. นิวตรอน ( neutron )
  5. Energy band Gap ช่องว่างแถบพลังงาน
    1. ช่วยในการศึกษาว่าสารที่เป็นตัวนำ สารกึ่งตันำน หรือ ฉนวน
    2. Energy gap : Insulator > semiconductor > conductor
  6. 1 eV = 1.6 x 10^-19 J
  7. จำนวน e^- ใน Shell
    1. 2n^2
      1. 2 8 18 32
    2. Orbitals(s ,p, d, f) 2 6 10 14
2. ฉนวน (Insulator)
  1. ต้องประกอบด้วยหลายธาตุ มี valence e^- อยู่อย่างหนาแน่น
    1. พลาสติก แก้ว ไมก้า ควอตซ์
3. ไดโอด (Diode)
  1. Forward resistance
  2. Reverse resistance
    1. ถ้าเพิ่มแรงดันไฟฟ้ามากขึ้นจนถึงค่า หนึ่ง
      1. รอยต่อ pn พังทลาย(Breakdown)
        เกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าฉับพลัน
4. ตัวนำ (Conductors)
  1. ตัวอย่าง ตัวนำที่ดี
    1. copper (Cu)
      1. silver (Ag)
        gold (Au)
        aluminum (Al)
  2. สมการกระแสในตัวนำ
  3. ตัวนำที่ดีต้องมีธาตุเดียว valence e^- ตัวเดียว e^- วงนอกอยู่กันอย่างหลวมๆ
5. สารกึ่งตัวนำ (semiconductor)
  1. ตัวอย่าง
    1. antimony (Sb),
    2. arsenic (As)
    3. astatine (At)
    4. boron (B)
    5. polonium (Po),
    6. tellurium (Te)
    7. silicon (Si),
    8. germanium (Ge).
    9. สารประกอบ
      1. GaAs (ดีที่สุด)
      2. Inp
      3. G2N
      4. SiC
      5. SiGe
  2. สารกึ่งตัวนำบริสุทธิ์
  3. สารกึ่งตัวนำไม่บริสุทธิ์
  4. การโด๊ป (doping)
    1. การเติมสารเจือ (imurities) ลงในสารกึ่งตัวนำบริสุทธิ์ เพื่อ ควบคุมขนาดและทิศทางของกระแส นั่นคือการควบคุมประจุพาหะให้มีจำนวนตามที่ต้องการ
    2. Donors : P , As ,Sb
      1. กลุ่ม วาเลนซ์อิเล็กตรอน 5 N-Type
        ฟอสฟอรัส(P)
        อาร์เซนิค(As)
    3. Acceptors : B, AL, Ga ,ln
      1. กลุ่มที่มีวาเลนซ์อิเล็กตรอน 3 P-Type
        โบรอน(B)
  5. ตัวนำที่ดี เพราะกระแสจะขึ้นกับ Free e^-
6. การอ่านค่าจากแถบสี
Oscilloscope
1. เครื่องมือสำหรับวัดสัญญาณไฟฟ้ าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มาก โดยทำการวาดหรือลากเส้น (plot) กราฟของสัญญาณที่สนใจ บนจอ และรูปคลื่นหรือสัญญาณไฟฟ้ าที่วัดได้จะเทียบกับเวลา โดยสัญญาณที่ ต้องการจะวัดนั้นอาจเกิดขึ่นครั้งเดียว เกิดขึ้นในลักษณะซ้ำเดิม หรือ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่แน่นอน
2. Storage function
  1. ช่วยในการวัดสัญญาณที่เกิดชั่วครั่งชั่วคราว
  2. วิธีใช้งาน
ค่าความต้านทานไฟฟ้า

Next up

สรุป Electrical

Description

Resource summary

Media attachments

Similar

	Created by DKKs over 8 years ago